“AWS” โรดโชว์ เตรียมประเดิมเทรดตลาดไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ 9 ก.ย.นี้
บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “AWS” ดำเนินธุรกิจ DIGITAL TECHNOLOGY ลุยโรดโชว์ เตรียมประเดิมเป็นบริษัทแรกเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ 9 ก.ย.นี้ เผยเสนอขายไอพีโอ 40 ล้านหุ้น นำเงินระดมทุนพัฒนาธุรกิจ 8 ด้าน
นายวิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AWS กล่าวในงานให้ข้อมูลบริษัท (โรดโชว์) กับนักลงทุน ผู้สนใจ รวมถึงสื่อมวลชน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทได้รับอนุมัติไฟลิ่งจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ในการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 40 ล้านหุ้น คาดว่าจะกำหนดราคาขายและเปิดให้นักลงทุนรายใหญ่ หรือกองทุนจองซื้อในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เป็นบริษัทแรก ในวันที่ 9 กันยายนนี้
โดยหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 40 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 16.67 ของหุ้นทั้งหมดจำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 0.5 บาท/หุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ คาดว่ามูลค่าหุ้นที่เสนอขายจะอยู่ในช่วงราคาระหว่าง 2.00-2.70 บาท
ส่วนเงินระดมทุนที่ได้ จะนำไปใช้ใน 8 ด้าน เช่น พัฒนาระบบ Cloud Server ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ ร้อยละ 8.5 พัฒนาระบบเว็บ 3.0 ร้อยละ 15 พัฒนาระบบตั๋วบล็อกเชน ร้อยละ 10 ขยายธุรกิจตู้สินค้าอัตโนมัติ และขายสินค้ากับพันธมิตรทางธุรกิจ ร้อยละ 15 รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ร้อยละ 30
นายวิโรจน์ ระบุว่า บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส เป็นผู้ออกแบบพัฒนาไอทีโซลูชั่น มีลูกค้าร้อยละ 98 เป็นภาคเอกชน และร้อยละ 2 เป็นหน่วยงานรัฐ มีทั้งองค์กรขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี ก่อตั้งบริษัทมาแล้ว 15 ปี นิยามตัวเองว่าเป็นเอสเอ็มอีที่ประกอบธุรกิจดิจิทัลเทคโนโลยี แบ่งธุรกิจเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ระบบเติมและชำระเงิน บริหารจัดการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 2. ระบบบริหารจัดการตั๋ว และไอทีโซลูชั่น ระบบบริหารจัดการคิวแบบครบวงจร โดยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นพระเอกในขณะนี้ คือ ระบบ welovebooking และ Advance Vending ส่วนธุรกิจ Blockchain คาดหวังการโตในระยะยาว ซึ่งเป็น New S-Curve ของบริษัทต่อไปในอนาคต
ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้สูงสุดกว่า 200 ล้านบาท และมีกำไรสูงสุดกว่า 20 ล้านบาท แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับมีการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ ทำให้ช่วงปี 2563 มีรายได้กว่า 90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนในปี 2564 มีรายได้ลดเหลือประมาณ 70 ล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มเป็นประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งกำไรที่เติบโตมาจากระบบการบริหารจัดการ รวมถึงการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จึงทำให้มีกำไรมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจปี 2565 คาดว่าจะดีขึ้น
นายวิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ระบุด้วยว่า ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือ สตาร์ทอัพ รองรับการระดมทุนในตลาดทุนของกิจการที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา เพราะมีการลดกฎเกณฑ์บางอย่าง เพื่อให้สามารถเข้าจดทะเบียนได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีที่ปรึกษาและการสนับสนุนอีกหลายด้าน ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมของธุรกิจ หากต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI หรือ SET ต่อไปในอนาคต โดยยืนยันว่า บริษัทวางแผนจะย้ายเข้าเทรด MAI ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า
วีดีโอการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
เว็บไซต์ tna.mcot.net/